ของสะสมยุคโบราณ ของสะสมอายุยาวนานที่คนนิยม
ของสะสมยุคโบราณ การสะสมของ ก็มีให้เลือกอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับ ความชื่นชอบของ ในแต่ละบุคคล ซึ่งหนึ่งใน การสะสมที่นิยม นั้นก็จะมีการ สะสมของเก่าโบราณ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง พิพิธภัณฑ์ของสะสม ที่มีชื่อว่า พิพิธภัณฑ์สุขสะสม เราจะได้เห็น ของสะสมเก่าเก่า ที่มีประวัติความเป็นมา ที่ยาววนานอยู่ แบบละลานตามากมาย เอาเป็นว่าดูกันได้ อย่างเพลิดเพลินเลยครับ สถานที่นี้เป็น ที่เก็บสะสมของเก่า ที่มีจำนวนมากกว่า 300,000 ชิ้น
เจ้าของที่ เก็บสะสมคือ นายชัยโรจน์ เจริญทวีสิทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า เฮียเม้ง นักสะสมที่มี ความหลงใหลของเก่า ของเล่นเก่า, ชุดเอกสารเก่า, หนังสือพิมพ์สมัยก่อน, โปสเตอร์โฆษณาดีไซน์เก่า ไปจนถึง เครื่องใช้ยุคเก่า ที่ใช้เวลามากเกิน 30 ปี
กับการเก็บสะสม พวกสิ่งของต่าง ๆ นี้ครับ คนที่มีความรัก กับการเก็บของเก่า นั้นก็มีอยู่มาก ทว่าคนที่สะสมแบบจริงจัง ถึงขนาดที่มีของเก่า อยู่จำนวนมากมาย ที่นับแสนชิ้นแบบนี้ได้ เชื่อเลยครับว่า ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ
ของสะสมยุคโบราณ พิพิธภัณฑ์ของสะสมโบราณ ที่มีมากกว่าสามแสนชิ้น
พิพิธภัณฑ์สุขสะสม นี้ได้สร้างขึ้นมาได้ ก็เพราะไอเดียของ ลูกชายเฮียเม้งอย่าง กอล์ฟ ธีรวัฒน์ เจริญทวีสิทธิ์ ด้วยการที่เค้านั้น ได้เห็นของสะสมเก่า ที่พ่อนั้นมีความตั้งใจ ในการเก็บสะสม ในแต่ละชิ้น ๆ จนเห็นถึงคุณค่า กับประวัติเรื่องราว
ที่มีความน่าสนใจ พอตัวเองได้เรียนจบ ก็เลยมีความตั้งใจ ที่จะมาสร้าง พิพิธภัณฑ์แบบนี้ขึ้นมา ให้เป็นเหมือนของขวัญ มอบให้กับพ่อ ที่ในตอนอายุได้ 60 ปี เลยได้กลายมาเป็น จุดเริ่มต้นของ พิพิธภัณฑ์สุขสะสมแห่งนี้นั่นเอง
ที่พิพิธภัณฑ์นี้ ได้มีการแบ่งโซน ทั้งหมดมี 5 โซนครับ ซึ่งในโซนต่าง ๆ นั่นจะมีของเจ๋ง ๆ ของดี ๆ ที่ดูเด่น แบบหายาก ไม่ได้เห็นกันง่าย ๆ ด้วยครับ ตั้งแต่ในโซนแรก ที่จะผ่านเข้าไป ที่ประตูสีชมพูสีสดใส คล้ายกับประตูในการ์ตูน โดราเอมอนเลยทีเดียวครับ
โซนที่ 1 วิวัฒนาการของเล่นย้อนยุค เป็นส่วนที่จะโชว์ ของเล่นโบราณ มาจนถึงของเล่นแบบใหม่ เอาเป็นว่านักสะสมของเล่น หากได้เห็นแล้ว น้ำลายไหลแน่นอน ของบางชิ้นนั้น มีอายุมาแล้วร้อยปี ก็ยังมีโชว์ให้ดูครับ ชิ้นไฮไลท์ขอยกให้
รถแทรกเตอร์ไอน้ำของเยอรมัน ของชิ้นนี้ผลิตขึ้น ปีค.ศ.1930 จุดประสงค์นั้นคือ สอนให้เด็กรู้จักกับ การทำงานของ เครื่องจักรไอน้ำ สิ่งสำคัญนั้นคือ ของเล่นนี้คือ รุ่นเดียวกับที่ ในหลวงรัชกาลที่ 8 และในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นทรงเล่น ในครั้งทรงพระเยาว์ นับว่าเป็นของเล่น ใช้ในการส่งเสริม ความรู้ด้านวิศวกรรม กับเรียนรู้การทำงาน ของเครื่องจักรได้ดียิ่งครับ
ของสะสมยุคโบราณ ของสะสมโบราณเจ๋งๆ ที่จัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ นั้นมีอะไรบ้าง ?
มาสู่โซน 2 ความสุขกับของใช้ร่วมสมัย บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งโชว์ ของใช้โบราณ ตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 1-6 ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ ที่ใช้กันใน ชีวิตประจำวันในยุคอดีต มีตั้งแต่ นาฬิกาโบราณ, โทรศัพท์บ้าน ,วิทยุเก่าเครื่องใหญ่ ,เครื่องเล่นแผ่นเสียง ถ้วยชาม ปิ่นโตสีสันสด ๆ ฯลฯ
ไฮไลท์โซนนี้ก็คือ พิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรกในสยาม สมัยก่อนนั้นเรายัง ไม่มีเครื่องพิมพ์ดีด ในทางการเลยได้ จ้างต่างชาติ เพื่อพิมพ์เอกสารให้ แต่ทว่าคนต่างชาตินั้น ไม่ได้เข้าใจถึง ตัวอักษรของไทย เลยทำให้พิมพ์ตกหล่น
หรือไม่ก็สะกดคำ ได้ไม่ค่อยถูกต้อง รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าฯ โรงงานของอเมริกา ให้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีด ที่เป็นภาษาไทยมา 17 เครื่องด้วยกัน แต่พยัญชนะไทยนั้น มีมาก 44 ตัวเลยไม่สามารถ ที่จะใส่ไปได้ครบ เลยต้องตัดทิ้งไป 2 ตัว นั่นก็คือ ฃ. ฃวด และ ฅ.ฅน ที่ถูกตัดนั่นเองครับ
มาในโซน 3 สื่อสิ่งพิมพ์เล่าเรื่องราวในไทย จะมีสิ่งพิมพ์โบราณ จากในยุครัชกาลที่ 3-9 บ่งบอกถึงความเป็นมา ของแต่ละสมัย จะมีของสะสม ที่เป็นประเภทหีบห่อ อย่างพวกยาสีฟัน, ยาสระผม ,ผงซักฟอก พร้อมกับความรู้ ที่มีหลายคนเคยสงสัย
ทำไมเรานั่นเรียก ของพวกนี้ว่า ยา ก็เพราะว่า ของเหล่านี้คือ สารเคมีที่มาจาก ในต่างประเทศ และในสมัยก่อน นั้นได้ขายอยู่ใน ร้านขายยานั่นเอง เลยจำเป็นที่จะต้องให้ คนขายนั้นคอยอธิบาย ในเรื่องการใช้กันก่อน ยกตัวอย่างเช่นสมัยก่อน
ได้นำเอา ยาซักฟอก ปัจจุบันเรียกผงซักฟอก เข้าขายที่เมืองไทยแรก ๆ ได้มีโฆษณาว่า กัดผ้าให้ขาว มากกว่าสบู่ที่ซักผ้า ทว่าช่วงนั้นคนเรา ยังไม่กล้าที่จะ นำมือลงไปซักผ้า เหตุผลคือว่ากลัวจะกัดมือ เลยกลายเป็นว่า ได้นำเข้าเครื่องซักผ้า ที่เป็นเครื่องแรกในไทย ผลิตมาจากอเมริกา มาใช้เพื่อให้คู่กับยาซักฟอก เลยทำให้ขายได้ครับ
ของสะสมเก่ากับเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ
โซน4 อาชีพเก่าคนโบราณ เรื่องราวชาวจีน กับการอพยพลี้ภัยสงคราม เพื่อที่จะมาหากินที่เมืองไทย อาชีพหลักชาวจีน นอกเหนือจากที่มา เพื่อเป็นแรงงาน นั่นก็คือค้าขาย ที่เป็นการหาบเร่ ขายกาแฟ ,อาหาร ไม่ก็โชห่วย ที่จะบริการลูกค้า ไปในที่ต่าง ๆ
โซนนี้เราจะเก็น หาบตู้คนจีน ที่ได้ใช้หาบกันไปขาย บอกเลยแค่ตัวหาบ นั้นมีความหนักอย่างมาก หากยิ่งใส่ของเต็ม ๆ บอกเลยว่าหนัก เป็นร้อยกิโลกรัมเลยทีเดียวครับ แถมด้วยการเดินแบก หาบของขายไกล ๆ ในตรอกซอยถึง 10-20 กิโลเมตรเลย ถึงจะหนัก ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ยังอดทนกับชีวิตครับ
มาถึงโซน 5 ตลาดเก่าร้อยปี โซนที่ตั้งด้านนอก ของตึกพิพิธภัณฑ์ ตรงที่ด้านหลัง ได้จำลองร้านค้าสมัยอดีต ที่มีตั้งแต่ ร้านทอง, ร้านขายของเล่น ,ร้านของชำ, โรงหนังเก่า พร้อมกับ ชีวิตชาวนาไทย ที่โซนนี้ดีอย่างมากกับ คนที่ชื่นชอบ การถ่ายรูป นั่นก็เพราะสามารถ ถ่ายท่าทาง แบบเป็นเจ้าของร้านเอง กันได้สบาย ๆ เลยทีเดียวครับ
